แนะนำ 10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่กรองฝุ่น PM2.5 ได้จริง เงียบ ประหยัดไฟ เหมาะกับทุกบ้าน

เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2025

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัญหามลพิษทางอากาศได้กลายเป็นประเด็นที่คนไทยให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่ต้องเผชิญกับฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝุ่นขนาดเล็กนี้ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ไปจนถึงปัญหาสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว นั่นจึงทำให้ “เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2025” กลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ในบ้านยุคใหม่ โดยเฉพาะ เครื่องฟอกอากาศในบ้าน หรือ เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องนอน ที่สามารถช่วยกรองอากาศภายในให้สะอาด ปลอดภัย ปราศจากฝุ่น ควัน กลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการพักผ่อนและการใช้ชีวิตในทุกวัน

บทความนี้ PRICEDED จะพาคุณไปสำรวจ 10 รุ่นเครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่ได้รับความนิยม ใช้งานได้จริง และคุ้มค่าทั้งในเรื่องประสิทธิภาพและราคา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลือกเครื่องฟอกอากาศเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพ ความสะอาด และความสะดวกในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรือออฟฟิศเล็กๆ ที่ต้องการการฟอกอากาศคุณภาพสูง

10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2025

1. Philips Air Purifier AC3220/10 ฟอกอากาศครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ถึง 135 ตร.ม.

Philips Air Purifier AC3220/10 (up to 135 m2 area) เครื่องฟอกอากาศ AC3220/10 สำหรับห้องขนาด 135 ตร.ม.

5.0
฿ 13,590 ฿ 14,934
Shopee.co.th

หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ที่สามารถจัดการกับฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรคในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ Philips Air Purifier AC3220/10 ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน ด้วยการออกแบบที่เรียบหรูและระบบฟอกอากาศแบบหลายชั้น เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างถึง 135 ตารางเมตร จึงเหมาะสำหรับห้องรับแขกขนาดใหญ่ พื้นที่สำนักงาน หรือบ้านที่มีพื้นที่โล่งเปิดกว้าง โดยใช้เทคโนโลยี VitaShield IPS ร่วมกับแผ่นกรอง NanoProtect HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กระดับ PM2.5 เชื้อแบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบเซนเซอร์อัจฉริยะ AeraSense ที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์และปรับความแรงของพัดลมโดยอัตโนมัติตามระดับฝุ่นที่ตรวจพบ ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าอากาศภายในห้องจะสะอาดและปลอดภัยอยู่เสมอ เหมาะสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ระบบทางเดินหายใจ และต้องการเครื่องฟอกอากาศที่ทำงานเงียบในขณะที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน

คุณสมบัติเด่น

  • ฟอกอากาศครอบคลุมพื้นที่สูงสุด 135 ตร.ม.
  • เทคโนโลยี VitaShield IPS กรองอนุภาคขนาดเล็กมากถึง 0.02 ไมครอน
  • แผ่นกรอง NanoProtect HEPA และแผ่นกรองคาร์บอนแบบหนา
  • ระบบเซนเซอร์ AeraSense ตรวจวัดคุณภาพอากาศและแสดงผลแบบเรียลไทม์
  • โหมดอัตโนมัติ ปรับระดับลมตามคุณภาพอากาศ
  • เสียงเงียบขณะทำงาน เหมาะสำหรับใช้เวลากลางคืน
  • ระบบฟอกอากาศได้ทั้ง PM2.5, แบคทีเรีย, ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้
  • มีหน้าจอแสดงผลระดับคุณภาพอากาศแบบสี
  • ผ่านการรับรองจาก ECARF และ Airmid Healthgroup

เหมาะสำหรับใคร

เครื่องฟอกอากาศ Philips AC3220/10 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 หรืออยู่ในพื้นที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่น คอนโดมิเนียมและบ้านปิดผนึก ผู้ที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวด้านระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด จะได้รับประโยชน์จากการฟอกอากาศที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการ เครื่องฟอกอากาศ PM2.5 สำหรับห้องขนาดใหญ่ ที่มีเทคโนโลยีชั้นนำและการใช้งานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่ใช้งานได้จริงและให้ผลลัพธ์ชัดเจนในการปรับคุณภาพอากาศในบ้าน รุ่นนี้ถือว่าน่าเชื่อถือและคุ้มค่าในระยะยาว

2. Dyson Purifier Cool Gen1 TP10 เครื่องฟอกอากาศดีไซน์พรีเมียม พร้อมพัดลมในตัว

Dyson Purifier Cool ™ Gen1 Air Purifier TP10 (White) เครื่องฟอกอากาศ ไดสัน สีขาว

4.9
฿ 15,900
Shopee.co.th

Dyson Purifier Cool Gen1 TP10 ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Dyson ที่ขึ้นชื่อในด้านนวัตกรรมการฟอกอากาศและดีไซน์ที่ล้ำสมัย รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่ครอบคลุม ทั้งในเรื่องของการกรองฝุ่น PM2.5, ก๊าซที่เป็นอันตราย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันพัดลมในตัว ทำให้ใช้งานได้ทั้งปีไม่ว่าจะฤดูไหน ด้วยมาตรฐานการกรองอากาศที่ละเอียดระดับ HEPA 13 และการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ทำให้ Dyson TP10 กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหา เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูง สำหรับใช้ในบ้านหรือคอนโด

คุณสมบัติเด่น

  • เทคโนโลยีกรองอากาศแบบ HEPA 13 ที่สามารถดักจับอนุภาคเล็กระดับ 0.1 ไมครอน ได้ถึง 99.95%
  • ระบบฟอกอากาศแบบ 2-in-1 รวมทั้งฟังก์ชันพัดลมระบายอากาศ
  • กรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ ก๊าซ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึง ฝุ่น PM2.5
  • ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ พร้อมแสดงผลผ่านหน้าจอ
  • ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก ใช้งานง่ายด้วยระบบสัมผัส
  • มีการปิดเสียงขณะใช้งานกลางคืน (Night Mode) เพื่อความเงียบสงบในการนอนหลับ
  • ไม่มีใบพัด หมดกังวลเรื่องความปลอดภัยสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง

เหมาะสำหรับใคร

Dyson TP10 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหรือพื้นที่ที่มีปัญหามลภาวะสูง โดยเฉพาะผู้ที่แพ้ฝุ่น หรือเป็นโรคทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ หรือหอบหืด ด้วยความสามารถในการกรองฝุ่นละเอียด เชื้อโรค และ ไวรัสในอากาศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ใส่ใจสุขภาพ รวมถึงผู้ที่ต้องการ เครื่องกรองฝุ่น ที่มีทั้งฟังก์ชันการใช้งานและดีไซน์ที่สวยงามในเครื่องเดียว นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานระยะยาวและไม่ต้องการเปลี่ยนเครื่องฟอกอากาศบ่อยครั้ง เพราะ Dyson ให้ความทนทานสูงและรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ดีเยี่ยม

3. Levoit Core 400S Air Purifier ควบคุมผ่านแอป กรองอากาศแม่นยำ รองรับ PM2.5

[สินค้าพร้อมส่ง] Levoit Core 400S Air Purifier PM2.5 App เครื่องฟอกอากาศ levoit 400s กรองอากาศ ประกัน 2 ปี

4.9
฿ 7,490 ฿ 9,024
Shopee.co.th

Levoit Core 400S เป็นเครื่องฟอกอากาศรุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ Levoit ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในบ้านยุคใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการอากาศสะอาด ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ ตัวเครื่องรองรับการควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน VeSync และเชื่อมต่อกับระบบ Smart Home อย่าง Alexa และ Google Assistant ได้อย่างสะดวก ด้วยดีไซน์เรียบหรูทันสมัยและการทำงานที่เงียบไม่รบกวนการนอน Levoit 400S จึงเป็นหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูงที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานในบ้านหรือคอนโด

คุณสมบัติเด่น

  • กรองฝุ่น PM2.5, ควัน, กลิ่นไม่พึงประสงค์ และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบกรอง 3 ชั้น (Pre-filter, True HEPA Filter และ Activated Carbon Filter)
  • รองรับการควบคุมผ่านแอป VeSync และสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Alexa หรือ Google Assistant
  • มีเซนเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศแบบ Real-time และปรับระดับการฟอกอัตโนมัติตามค่าฝุ่นในอากาศ
  • ครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 83 ตร.ม. (CADR สูงถึง 442 ลบ.ม./ชม.)
  • โหมด Sleep ทำงานเงียบพิเศษเพียง 24 เดซิเบล เหมาะกับใช้งานในห้องนอน
  • รับประกันนาน 2 ปีจากศูนย์ไทย

เหมาะสำหรับใคร

Levoit Core 400S เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่หรือพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูง โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นภูมิแพ้ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน เนื่องจากตัวเครื่องสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก เชื้อรา ละอองเกสร และขนสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่รองรับระบบ Smart Home เพื่อความสะดวกในการควบคุมจากทุกที่ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

4. Blueair Blue Max 3250 ฟอกอากาศเร็วทันใจ สำหรับห้องขนาด 48 ตร.ม.

(New!)Blueair เครื่องฟอกอากาศกำจัด PM2.5 Air Purifier รุ่น Blue Max 3250 ขนาดห้อง 48 ตร.ม ฟอกเร็วสูงสุด 12.5 นาที

4.9
฿ 7,920 ฿ 9,900
Shopee.co.th

Blueair Blue Max 3250 คือหนึ่งในเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพอากาศภายในบ้านหรือห้องทำงานที่ดียิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีเฉพาะของ Blueair ที่เน้นการฟอกอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกำจัดฝุ่นละออง PM2.5 เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึง 15 นาที ซึ่งถือว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่ขนาดไม่เกิน 48 ตารางเมตร ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงาน ด้วยความเร็วในการฟอกอากาศสูงสุดภายใน 12.5 นาที ทำให้ Blueair Blue Max 3250 เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในเมือง หรือพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง ต้องการอากาศสะอาดบริสุทธิ์ภายในบ้านอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังใช้ฟิลเตอร์แบบ HEPASilent™ ที่ช่วยดักจับอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ฝุ่น PM 2.5, ละอองเกสร, เชื้อรา, สารก่อภูมิแพ้ รวมไปถึงควันบุหรี่และมลพิษจากการจราจร ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่มองหา เครื่องฟอกอากาศกรองฝุ่นละเอียด, เครื่องฟอกอากาศสำหรับคอนโด, หรือแม้แต่ เครื่องฟอกอากาศลดภูมิแพ้ ได้อย่างลงตัว


คุณสมบัติเด่น

  • ฟอกอากาศครอบคลุมพื้นที่สูงสุด 48 ตารางเมตร
  • ฟอกอากาศได้เร็วสูงสุดภายใน 12.5 นาที
  • ใช้เทคโนโลยี HEPASilent™ ประสิทธิภาพสูง
  • ลดฝุ่น PM2.5, ควัน, สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์
  • การทำงานเงียบ เหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืน
  • ดีไซน์เรียบหรู ขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก
  • ปุ่มควบคุมง่ายต่อการใช้งาน

เหมาะสำหรับใคร

Blueair Blue Max 3250 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเมืองที่มีมลภาวะทางอากาศสูง หรือผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ ฝุ่น ควัน และสารระคายเคืองทางเดินหายใจต่างๆ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่กำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน, เครื่องฟอกอากาศในคอนโด, หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มคุณภาพชีวิตด้วยอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์

ด้วยความเร็วในการกรองอากาศที่เหนือกว่าหลายรุ่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน Blueair Blue Max 3250 ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและน่าลงทุนในระยะยาว ทั้งในด้านสุขภาพและความสบายใจของผู้ใช้งาน

5. Philips Air Purifier AC1715/21 ฟอกอากาศแรง กำจัดฝุ่นและไวรัสในห้อง

Philips Air Purifier เครื่องฟอกอากาศ AC1715/21 สำหรับห้องขนาด 25-78 ตร.ม.

4.9
฿ 9,219 ฿ 10,021
Shopee.co.th

Philips Air Purifier รุ่น AC1715/21 เป็นเครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อดูแลสุขภาพของคุณและครอบครัว ด้วยการกรองอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีปัญหาฝุ่น PM2.5 หรือผู้ที่เป็นภูมิแพ้ เครื่องนี้รองรับพื้นที่ใช้งานตั้งแต่ 25 ถึง 78 ตารางเมตร จึงเหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องนอนขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งคอนโดแบบเปิดโล่ง ตัวเครื่องใช้ระบบฟอกอากาศหลายชั้นที่สามารถกำจัดฝุ่นละออง ไวรัส แบคทีเรีย และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีเซนเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศอัตโนมัติ และสามารถปรับความแรงของพัดลมตามสภาพอากาศภายในห้อง อีกทั้งยังมาพร้อมหน้าจอแสดงผลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้งานรับรู้สภาพอากาศในบ้านได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิต

คุณสมบัติเด่น

  • รองรับพื้นที่ขนาด 25–78 ตารางเมตร เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่
  • ระบบกรองอากาศ 3 ชั้น: Pre-filter, HEPA Filter และ Activated Carbon
  • ตรวจจับและแสดงค่าฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์ด้วยหน้าจอดิจิทัล
  • โหมดอัตโนมัติช่วยปรับระดับการฟอกอากาศตามคุณภาพอากาศ
  • เสียงเงียบขณะทำงาน เหมาะกับการใช้งานในเวลากลางคืน
  • ดีไซน์ทันสมัย พกพาสะดวก เคลื่อนย้ายได้ง่าย

เหมาะสำหรับใคร

Philips AC1715/21 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพด้วยการฟอกอากาศภายในบ้านอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในยุคที่ปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรคต่างๆ กลายเป็นเรื่องใกล้ตัว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคภูมิแพ้ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองสูง นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่ใช้งานง่าย ฟังก์ชันครบ และดีไซน์สวยงาม สามารถวางไว้ในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือคอนโดโดยไม่เกะกะ LSI Keywords ที่สอดแทรกในเนื้อหานี้ ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ HEPA, เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องนอน, เครื่องฟอกอากาศ PM2.5, และ เครื่องฟอกอากาศลดภูมิแพ้ ซึ่งล้วนเป็นคำค้นที่ผู้บริโภคมักใช้ในการค้นหาเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี

6. Xiaomi Smart Air Purifier 4 ฟีเจอร์ครบ เชื่อมแอป ใช้งานง่าย ราคาคุ้ม

(สินค้าพร้อมส่งจากไทย) Xiaomi Smart Air Purifier 4 เวอร์ชั่นภาษาไทย เครื่องฟอกอากาศ กรองฝุ่น PM2.5 สำหรับห้อง 28-48ตรม

4.9
฿ 6,490 ฿ 6,978
Shopee.co.th

Xiaomi Smart Air Purifier 4 เวอร์ชั่นภาษาไทย เป็นเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานภายในบ้านและคอนโดในยุคที่ฝุ่นละออง PM2.5 กลายเป็นปัญหาหลักต่อสุขภาพ ด้วยดีไซน์เรียบหรู สไตล์มินิมอลในแบบฉบับ Xiaomi พร้อมฟังก์ชันควบคุมผ่านแอป Mi Home รองรับคำสั่งเสียงผ่าน Google Assistant และ Alexa รุ่นนี้สามารถกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังรองรับพื้นที่ห้องขนาดกลางถึงใหญ่ (28–48 ตร.ม.) เหมาะกับบ้านยุคใหม่ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูง ราคาเข้าถึงได้

ด้วยระบบกรองอากาศแบบ 3 ชั้นที่มีทั้ง Pre-Filter, Activated Carbon และ HEPA Filter รุ่นนี้สามารถดักจับฝุ่น PM2.5, ควันพิษ, ละอองเกสร, กลิ่นไม่พึงประสงค์ และสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นคือหน้าจอ OLED ที่แสดงสถานะคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และโหมด Auto ที่ปรับระดับการทำงานตามสภาพอากาศในห้องโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีเสียงเงียบขณะใช้งาน เหมาะกับการเปิดไว้ทั้งวันหรือแม้แต่ขณะนอนหลับ

ด้วยราคาที่คุ้มค่า ฟังก์ชันทันสมัย และการบำรุงรักษาที่ง่าย ทำให้ Xiaomi Smart Air Purifier 4 กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่กำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศกรองฝุ่น PM2.5, เครื่องฟอกอากาศบ้าน, หรือ เครื่องฟอกอากาศสำหรับคอนโด ในปี 2025 นี้


คุณสมบัติเด่น

  • กรองอากาศได้ครอบคลุมพื้นที่ 28–48 ตารางเมตร
  • หน้าจอ OLED แสดงค่าฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์
  • ควบคุมผ่านแอป Mi Home และรองรับคำสั่งเสียง
  • ระบบกรองอากาศ 3 ชั้น (Pre-filter, HEPA, Activated Carbon)
  • โหมดการทำงานอัตโนมัติและโหมดกลางคืนเสียงเงียบ
  • ประหยัดพลังงาน และเปลี่ยนไส้กรองได้ง่าย
  • ดีไซน์ทันสมัย เรียบหรู เข้ากับทุกมุมบ้าน

เหมาะสำหรับใคร

Xiaomi Smart Air Purifier 4 เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองที่มีมลภาวะฝุ่น PM2.5 สูง เช่น กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และสัตว์เลี้ยงในบ้าน นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่พักอาศัยในคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์ขนาดกลางที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ ใช้งานง่าย ราคาคุ้มค่า และต้องการควบคุมผ่านสมาร์ตโฟนในชีวิตประจำวัน

หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่รองรับการกรอง PM2.5 ได้ดีเยี่ยม พร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยในราคาประหยัด Xiaomi Smart Air Purifier 4 คือคำตอบที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

7. SAMSUNG Air Purifier รุ่น AX32BG3100GBST เครื่องฟอกอากาศไซซ์กลาง จากแบรนด์คุณภาพ

[จัดส่งฟรี] SAMSUNG เครื่องฟอกอากาศ รุ่น AX32BG3100GBST (41 ตร.ม., สีเบจ )

4.9
฿ 6,990 ฿ 8,962
Shopee.co.th

SAMSUNG รุ่น AX32BG3100GBST เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ออกแบบมาอย่างเรียบหรู พร้อมประสิทธิภาพในการกรองอากาศที่เชื่อถือได้ รองรับการใช้งานในห้องขนาดไม่เกิน 41 ตารางเมตร รุ่นนี้มาพร้อมระบบกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และแผ่นกรอง HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่น เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ที่ช่วยให้ผู้ใช้รับรู้สภาพอากาศภายในห้องได้ทันที ซึ่งถือว่าเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะทางอากาศ หรือบ้านที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่

ไม่เพียงแค่ความสามารถในการฟอกอากาศ แต่ SAMSUNG AX32 ยังมีฟีเจอร์อัจฉริยะที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ เช่น โหมดทำงานเงียบสำหรับใช้ในตอนกลางคืน และหน้าจอแสดงสถานะคุณภาพอากาศที่มองเห็นได้ชัดเจน ทั้งหมดนี้ทำให้รุ่นนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูง สำหรับห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นขนาดกลาง


คุณสมบัติเด่น

  • กรองอากาศด้วยระบบ 3 ชั้น: Pre-filter, แผ่นกรอง HEPA, Activated Carbon Filter
  • ตรวจจับและแสดงผลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์
  • รองรับห้องขนาด 41 ตร.ม. เหมาะกับคอนโดหรือบ้านขนาดเล็ก-กลาง
  • โหมดทำงานเงียบพิเศษ เหมาะสำหรับใช้งานตอนกลางคืน
  • ดีไซน์เรียบหรู สีเบจเข้ากับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์
  • ประหยัดพลังงานและใช้งานง่ายด้วยระบบสัมผัส

เหมาะสำหรับใคร

SAMSUNG AX32BG3100GBST เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่ต้องการอากาศสะอาดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์คนที่มีอาการแพ้ฝุ่น หรือเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะสามารถกำจัดอนุภาคขนาดเล็กและเชื้อโรคในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการ เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน หรือ เครื่องฟอกอากาศในคอนโด รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าทั้งในด้านฟังก์ชันและดีไซน์

8. Airdog X3Pro(D) Air Purifier ฟอกอากาศด้วยเทคโนโลยี TPA ไม่ต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์

Airdog X3Pro(D) Air Purifier เครื่องฟอกอากาศรุ่น สำหรับห้องขนาด 15-30ตร.ม กำจัดเชื้อไวรัส กรองฝุุ่น PM 2.5

5.0
฿ 20,800 ฿ 26,000
Shopee.co.th

Airdog X3Pro(D) Air Purifier เป็นเครื่องฟอกอากาศนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้งานในห้องขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ด้วยเทคโนโลยีกรองอากาศขั้นสูงที่แตกต่างจากเครื่องฟอกอากาศทั่วไป โดยใช้ระบบ TPA (Two Pole Active) ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมาก เช่น PM 2.5, ควัน, ละอองเกสร และแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผ่นกรองเหมือนเครื่องกรองแบบ HEPA ทั่วไป ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว อีกทั้งยังสามารถกำจัด เชื้อไวรัสในอากาศ ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในเมืองที่มีปัญหามลภาวะ ฝุ่นควัน หรืออาศัยในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี Airdog X3Pro(D) ยังมาพร้อมกับการออกแบบที่ทันสมัย เสียงเงียบ ใช้งานง่าย และมีหน้าจอแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจได้ว่าอากาศในบ้านสะอาดตลอดเวลา


คุณสมบัติเด่น

  • เทคโนโลยีกรองอากาศ TPA ไม่ใช้แผ่นกรอง HEPA
  • ดักจับฝุ่น PM2.5, PM1.0, และอนุภาคขนาดเล็กระดับนาโน
  • กำจัดเชื้อโรคและไวรัสในอากาศได้สูงถึง 99.9%
  • เหมาะกับห้องขนาด 15–30 ตารางเมตร
  • แสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ด้วยจอ LED
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว ไม่มีค่าเปลี่ยนฟิลเตอร์
  • เสียงเบา เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องทำงาน

เหมาะสำหรับใคร

Airdog X3Pro(D) เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโด ห้องนอน หรือห้องทำงานขนาดเล็กถึงกลาง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ หรือหอบหืด เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ยังตอบโจทย์ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุที่ต้องการอากาศสะอาดและปลอดภัยจากไวรัส แบคทีเรีย และฝุ่นละอองขนาดเล็ก LSI Keywords เช่น เครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องนอน, กรองฝุ่น PM2.5 ได้จริง, ฟอกอากาศฆ่าเชื้อไวรัส, และ เครื่องกรองอากาศประหยัดพลังงาน ล้วนสะท้อนถึงจุดเด่นของ Airdog รุ่นนี้ ซึ่งทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคนเมืองในยุคที่คุณภาพอากาศเริ่มกลายเป็นปัญหาสำคัญ

9. Bwell Air Purifier รุ่น AP-H2219S ฟอกอากาศ 3 ขั้นตอน สำหรับห้องขนาด 60 ตร.ม.

Bwell เครื่องฟอกอากาศขนาด 60 ตรม. 3 ขั้นตอน รุ่น AP-H2219S

4.9
฿ 6,607 ฿ 10,011
Shopee.co.th

Bwell รุ่น AP-H2219S เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพในการกรองอากาศ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการอากาศสะอาดบริสุทธิ์ภายในบ้านหรือห้องทำงาน เครื่องนี้รองรับพื้นที่ขนาดกลางถึงประมาณ 60 ตารางเมตร จึงเหมาะกับห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือออฟฟิศขนาดกลางได้อย่างดีเยี่ยม โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือระบบกรอง 3 ขั้นตอนที่ช่วยขจัดฝุ่น PM2.5 กลิ่นไม่พึงประสงค์ และเชื้อโรคต่างๆ ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องขนาดกลางที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพและราคาจับต้องได้

ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการกรองอากาศที่ครอบคลุม โดยมีระบบกรอง HEPA ซึ่งเป็นมาตรฐานในการดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% ทำให้มั่นใจได้ว่าปริมาณฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ในอากาศจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีชั้นกรองคาร์บอนที่ช่วยดูดซับกลิ่น และชั้นกรองขั้นต้นสำหรับกรองฝุ่นขนาดใหญ่ ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ช่วยดูแลสุขภาพผู้ใช้ในระยะยาว เหมาะกับคนที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้มีอาการภูมิแพ้ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศกรองเชื้อโรคในอากาศได้จริง


คุณสมบัติเด่น

  • ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานได้ถึง 60 ตารางเมตร
  • ระบบกรอง 3 ชั้น: Pre-filter, Activated Carbon Filter, HEPA Filter
  • ดักจับฝุ่น PM2.5 และฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 99.97%
  • ช่วยกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์จากควันบุหรี่ หรือกลิ่นอาหาร
  • เสียงการทำงานเงียบ เหมาะกับใช้ในเวลากลางคืน
  • ดีไซน์กะทัดรัด เคลื่อนย้ายง่าย

เหมาะสำหรับใคร

เครื่องฟอกอากาศ Bwell AP-H2219S เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือบริเวณใกล้ถนนใหญ่ เช่น คอนโดมิเนียมหรือบ้านในเขตเมือง นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือมีเด็กและผู้สูงอายุในบ้าน การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศกรองฝุ่น PM2.5 รุ่นนี้ จะช่วยลดปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บป่วยทางระบบทางเดินหายใจได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศ HEPA ที่ให้ความคุ้มค่ากับราคา และดูแลง่าย ไม่ซับซ้อน

10. SHARP Air Purifier รุ่น FP-J30TA ฟอกอากาศด้วย Plasma Cluster สำหรับห้องขนาดเล็ก

SHARP Air Purifier เครื่องฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ รุ่น FP-J30TA ขนาด 23 ตร.ม

4.9
฿ 3,390 ฿ 7,213
Shopee.co.th

SHARP FP-J30TA เป็นเครื่องฟอกอากาศขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องพักขนาดเล็ก ด้วยเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster) ซึ่งเป็นนวัตกรรมเฉพาะของ SHARP ที่ช่วยยับยั้งเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รุ่นนี้สามารถกรองอากาศได้ดีในห้องขนาดไม่เกิน 23 ตารางเมตร โดยเฉพาะฝุ่นขนาดเล็ก เช่น PM2.5 ที่พบได้บ่อยในเมืองใหญ่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหา เครื่องฟอกอากาศในห้องนอน หรือพื้นที่ที่ต้องการอากาศสะอาดในทุกช่วงเวลา ทั้งยังมีดีไซน์เรียบง่าย น้ำหนักเบา และเสียงทำงานเงียบ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสงบในการพักผ่อนหรือทำงาน


คุณสมบัติเด่น

  • เทคโนโลยี Plasmacluster Ion ยับยั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และกลิ่น
  • ระบบกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5
  • ครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 23 ตร.ม.
  • มีโหมดการทำงานอัตโนมัติ และโหมดนอน (Sleep Mode)
  • ทำงานเงียบ เหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืน
  • ดีไซน์กะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก
  • ประหยัดพลังงาน ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน

เหมาะสำหรับใคร

SHARP FP-J30TA เหมาะสำหรับผู้ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมหรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศสำหรับห้องนอนหรือห้องเด็ก เนื่องจากเครื่องมีระบบกรองฝุ่นละเอียดอย่าง PM2.5 และทำงานได้เงียบ ไม่รบกวนการนอน นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ผู้ที่กังวลเรื่องเชื้อโรค กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ เพราะเทคโนโลยี เครื่องฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ ของ SHARP ได้รับการยอมรับว่าสามารถกำจัดสิ่งเจือปนในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตารางสรุป 10 เครื่องฟอกอากาศแนะนำ ปี 2025

ลำดับยี่ห้อรุ่นครอบคลุมพื้นที่จุดเด่นกรอง PM2.5
1Philips AC3220/10135 ตร.ม.ฟอกอากาศแรง ระบบกรอง 3 ชั้น
2Dyson TP10กลาง-ใหญ่ดีไซน์พรีเมียม พร้อมพัดลม
3Levoit Core 400Sกลางควบคุมผ่านแอป มีเซนเซอร์ PM2.5
4Blueair Max 325048 ตร.ม.ฟอกอากาศเร็วใน 12.5 นาที
5Philips AC1715/2125–78 ตร.ม.เหมาะกับห้องขนาดกลาง–ใหญ่
6Xiaomi Air Purifier 428–48 ตร.ม.ฟีเจอร์ครบ เชื่อมต่อแอป Mi Home
7Samsung AX32BG3100GBST41 ตร.ม.ดีไซน์เรียบหรู ประสิทธิภาพดี
8Airdog X3Pro(D)15–30 ตร.ม.ไม่มีฟิลเตอร์ ถอดล้างได้
9Bwell AP-H2219S60 ตร.ม.ระบบกรอง 3 ขั้นตอน
10Sharp FP-J30TA23 ตร.ม.เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์

วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะกับบ้านและงบประมาณ

การเลือก เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2025 ไม่ใช่แค่ดูจากราคาเท่านั้น แต่ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งขนาดห้อง ประเภทฟิลเตอร์ ฟีเจอร์พิเศษ และความคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และไวรัสในอากาศเริ่มกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน


1. ดูจากขนาดพื้นที่การใช้งาน

ก่อนซื้อควรวัดขนาดห้องหรือพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน เพื่อเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพพอเหมาะ หากใช้ในห้องนอนหรือห้องทำงานขนาดเล็ก (ไม่เกิน 25 ตร.ม.) ควรเลือกเครื่องที่ออกแบบมาสำหรับพื้นที่นั้นโดยเฉพาะ ส่วนหากต้องการใช้ในห้องนั่งเล่นหรือห้องขนาดใหญ่ อาจต้องเลือกเครื่องที่รองรับพื้นที่มากกว่า 50 ตร.ม. ขึ้นไป เพื่อให้สามารถฟอกอากาศได้ทั่วถึง


2. ประเภทของฟิลเตอร์ (HEPA, Activated Carbon, UV ฯลฯ)

ประเภทของแผ่นกรอง (Filter) มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการดักจับสิ่งปนเปื้อน เช่น:

  • HEPA Filter: ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึง PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้
  • Activated Carbon Filter: ดูดซับกลิ่น ควัน และสารเคมีในอากาศ
  • UV-C Light หรือ Ionizer: กำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัส

การเลือกเครื่องที่มีระบบกรองหลายชั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้ดียิ่งขึ้น


3. ค่า CADR และระดับเสียง

ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) คืออัตราการปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกจากเครื่อง ยิ่งค่าสูง ยิ่งหมายถึงเครื่องสามารถฟอกอากาศได้เร็วในพื้นที่กว้าง ควรเลือกเครื่องที่มีค่า CADR สอดคล้องกับขนาดห้อง

ขณะเดียวกัน ระดับเสียง ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะถ้าจะใช้ในห้องนอนหรือขณะทำงาน ควรเลือกเครื่องที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 30 เดซิเบลเมื่ออยู่ในโหมดเงียบ เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อน


4. ฟังก์ชันเสริม เช่น เชื่อมต่อแอป, ตรวจจับฝุ่น PM2.5

เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ๆ มักมาพร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น:

  • เซนเซอร์ตรวจจับฝุ่น PM2.5 ที่ช่วยปรับการทำงานอัตโนมัติตามสภาพอากาศจริง
  • เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน เพื่อควบคุมจากระยะไกล หรือดูสถานะคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์
  • โหมดประหยัดพลังงาน และระบบแจ้งเตือนเปลี่ยนฟิลเตอร์

สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น และช่วยให้คุณมั่นใจว่าอากาศในบ้านสะอาดอยู่เสมอ


5. งบประมาณและความคุ้มค่าในระยะยาว

แม้เครื่องฟอกอากาศราคาถูกจะดูน่าสนใจ แต่หากต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์บ่อย หรือไม่มีระบบประหยัดไฟ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายสะสมสูงในระยะยาว ควรคำนึงถึง:

  • ราคาของ อะไหล่หรือแผ่นกรอง
  • อายุการใช้งานของเครื่อง
  • การรับประกันและบริการหลังการขาย

บางรุ่นที่มีราคาสูงกว่าอาจประหยัดได้มากกว่าในระยะยาว โดยเฉพาะหากใช้ฟิลเตอร์ที่ล้างได้ หรือมีอายุการใช้งานนานหลายปี


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เครื่องฟอกอากาศจำเป็นไหมถ้าอยู่ในคอนโด?

จำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากคอนโดอยู่ใกล้ถนนใหญ่ แหล่งก่อสร้าง หรืออยู่ในเมืองที่มีมลพิษสูง แม้จะอยู่ในอาคาร แต่ฝุ่น PM2.5, ควัน และเชื้อโรคสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ทางหน้าต่างหรือระบบระบายอากาศ การมี เครื่องฟอกอากาศในคอนโด จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าอากาศในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นสะอาดอยู่เสมอ ลดความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้และปัญหาทางเดินหายใจ

ใช้เครื่องฟอกอากาศนาน ๆ มีผลเสียไหม?

โดยทั่วไปแล้ว การใช้เครื่องฟอกอากาศต่อเนื่องไม่มีผลเสีย หากใช้อย่างถูกวิธีและดูแลตามคำแนะนำ เช่น การทำความสะอาดตัวเครื่องและเปลี่ยนฟิลเตอร์ตามระยะที่กำหนด ในทางกลับกัน การใช้งานสม่ำเสมอจะช่วยฟอกกลิ่นไม่พึงประสงค์ และลดปริมาณเชื้อโรคในอากาศ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ฝุ่นหรือโรคระบบหายใจ

จำเป็นต้องใช้ HEPA filter หรือไม่?

ถ้าคุณต้องการประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ HEPA filter ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้ หากต้องการเครื่องฟอกอากาศที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน แนะนำเลือกเครื่องที่มีแผ่นกรอง HEPA เป็นอย่างน้อย

ซื้อเครื่องฟอกอากาศออนไลน์ดีไหม?

การซื้อเครื่องฟอกอากาศออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดี เพราะสามารถเปรียบเทียบสเปก ราคา และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมักมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดมากกว่าหน้าร้าน อย่างไรก็ตาม ควรซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้ และตรวจสอบว่ามี การรับประกันสินค้า และบริการหลังการขายรองรับ เพื่อความมั่นใจในระยะยาว

ได้เลยครับ ด้านล่างคือเนื้อหาในหัวข้อ H2: สรุป — เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2025 รุ่นไหนเหมาะกับคุณ? โดยมีการทบทวนแต่ละรุ่นสั้น ๆ, กระตุ้นให้คลิกดูราคา และแนะนำแบรนด์ตามช่วงราคา:


สรุป เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี 2025 รุ่นไหนเหมาะกับคุณ?

จากรีวิวทั้งหมด จะเห็นได้ว่าเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นมีจุดเด่นและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ลักษณะการใช้งาน งบประมาณ และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน:

  • Philips AC3220/10 เหมาะกับบ้านขนาดใหญ่หรือผู้ที่ต้องการเครื่องประสิทธิภาพสูง
  • Dyson TP10 เหมาะกับคนที่ชอบดีไซน์ล้ำสมัย ใช้ได้ทั้งฟอกอากาศและพัดลมในตัว
  • Levoit Core 400S คุ้มค่า ฟีเจอร์ครบ เหมาะกับห้องขนาดกลางถึงใหญ่
  • Blueair Max 3250 ฟอกอากาศเร็ว เหมาะกับคนอยู่ในเมืองที่ต้องการกรอง PM2.5 อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Xiaomi Air Purifier 4 และ Samsung AX32 เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการควบคุมผ่านแอป และได้คุณภาพในราคาคุ้ม
  • Airdog X3Pro(D) เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเปลี่ยนฟิลเตอร์บ่อย ล้างทำความสะอาดได้
  • Sharp FP-J30TA เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ในห้องนอนหรือห้องเล็ก เน้นความเงียบและเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์

หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสุขภาพและความคุ้มค่า อย่าลืม คลิกดูราคาล่าสุด โปรโมชั่นลดพิเศษ หรือของแถมจากร้านค้าออนไลน์ ที่มักมีดีลดี ๆ โดยเฉพาะในช่วงแคมเปญลดราคาประจำเดือน

แนะนำแบรนด์คุ้มค่าตามช่วงราคา

  • งบประหยัด (< 3,000 บาท): Xiaomi, Sharp
  • งบกลาง (3,000 – 7,000 บาท): Levoit, Samsung
  • งบระดับพรีเมียม (> 7,000 บาท): Blueair, Dyson, Philips

สุดท้าย การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ดีไม่ใช่แค่ราคาถูกที่สุด แต่ควร “เหมาะกับการใช้งานของคุณที่สุด” ทั้งเรื่องขนาดห้อง ฟังก์ชัน และคุณภาพอากาศที่ได้ในแต่ละวัน 10 เครื่องทำน้ำแข็ง ยี่ห้อไหนดี 2025

Scroll to Top