การเลือก ไดร์เป่าผม ที่ดีไม่เพียงช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสียหายของเส้นผมและเพิ่มความเงางามได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมองหา ไดร์เป่าผมแรงลมดี สำหรับการจัดแต่งทรงผมให้แห้งเร็ว, ไดร์เป่าผมสำหรับผมเสีย ที่ช่วยลดความร้อนทำลายเส้นผม หรือ ไดร์เป่าผมสำหรับผมหนา ที่มีพลังลมแรงและสามารถกระจายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะช่วยคุณเลือกไดร์เป่าผมที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมและความต้องการของคุณ โดยเราได้คัดเลือก 10 ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี 2025 พร้อมรีวิวคุณสมบัติ ราคา และข้อดีของแต่ละรุ่น เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกซื้อไดร์เป่าผมที่ตอบโจทย์ที่สุด!
แนะนำ 10 ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี 2025
1. Dyson Airwrap i.d. ™ multi-styler and dryer (Jasper Plum)
Dyson Airwrap i.d. ™ multi-styler and dryer (Jasper Plum) อุปกรณ์เป่าผมและจัดแต่งทรงผม
Dyson Airwrap i.d.™ รุ่นใหม่ล่าสุดในสี Jasper Plum มาพร้อมดีไซน์สุดหรูและเทคโนโลยีล้ำสมัย ยังคงเอกลักษณ์ระบบ Coanda ที่ช่วยให้จัดแต่งทรงได้ง่ายขึ้นโดยไม่ทำร้ายเส้นผม มาพร้อมหัวเปลี่ยนหลากหลายสำหรับการม้วนผมตรง ลอน หรือเพิ่มวอลลุ่ม สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ ลดโอกาสเกิดผมเสียจากความร้อนสูง เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม โดยเฉพาะคนที่ต้องการเครื่องมือจัดแต่งทรงที่ใช้งานง่ายและถนอมเส้นผม
คุณสมบัติเด่น
- เทคโนโลยี Coanda ช่วยดึงเส้นผมเข้าหาหัวม้วนโดยอัตโนมัติ
- ปรับอุณหภูมิอัจฉริยะ ป้องกันความร้อนสูงเกินไป
- มาพร้อมหัวเปลี่ยนหลายแบบ ตอบโจทย์การจัดแต่งทรงที่หลากหลาย
- ใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ความร้อนสูงเหมือนเครื่องหนีบผม
- สี Jasper Plum สุดพรีเมียม ดีไซน์สวยหรู
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| ถนอมเส้นผมด้วยเทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิ | ราคาสูงกว่าที่ม้วนผมทั่วไป |
| หัวเปลี่ยนหลากหลาย ใช้งานได้หลายสไตล์ | ใช้เวลาฝึกฝนเล็กน้อยสำหรับมือใหม่ |
| ไม่ต้องใช้ความร้อนสูง ลดโอกาสผมเสีย | อุปกรณ์มีขนาดใหญ่ พกพาลำบาก |
| สีสวย ดีไซน์พรีเมียม | อาจไม่เหมาะกับผมที่หนามากหรือชี้ฟูเกินไป |
เหมาะกับใคร
Dyson Airwrap i.d.™ เหมาะกับคนที่ต้องการเครื่องมือจัดแต่งทรงที่ช่วยถนอมเส้นผม ลดความเสียหายจากความร้อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการม้วนผม ลอนผม หรือเพิ่มวอลลุ่มโดยไม่ต้องใช้ที่หนีบผมไฟฟ้าแบบเดิมๆ เหมาะกับผมที่ยาวปานกลางถึงยาว และผู้ที่ชอบอุปกรณ์ที่มีดีไซน์สวยงาม ใช้งานสะดวก แม้ว่าราคาจะสูงแต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ใช้จัดแต่งทรงผมบ่อยๆ
2. Panasonic nanoe Hair Dryer ไดร์เป่าผม นาโนอี รุ่น EH-NA0J
Panasonic nanoe Hair Dryer ไดร์เป่าผม นาโนอี รุ่น EH-NA0J
Panasonic nanoe Hair Dryer รุ่น EH-NA0J เป็นไดร์เป่าผมที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลเส้นผมอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีนาโนอีที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ไม่ทำให้ผมแห้งเสียจากความร้อน มาพร้อมกำลังไฟ 1600 วัตต์ และฟังก์ชันปรับแรงลม 3 ระดับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผมทำสีหรือผมแห้งเสีย นอกจากนี้ ยังมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา พกพาสะดวก แม้จะใช้งานเป็นเวลานานก็ไม่ทำให้เมื่อยมือ ระบบกระจายลมช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้นโดยไม่ทำลายเส้นผม และช่วยลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมเรียบลื่นไม่ชี้ฟู
คุณสมบัติเด่น
- เทคโนโลยี nanoe และ Double Mineral ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้นและแข็งแรง
- ปรับระดับความแรงลมได้ 3 ระดับ พร้อมโหมดลมเย็น
- ดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- ลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมไม่ชี้ฟู
- ช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้นโดยไม่ทำให้แห้งเสีย
- กำลังไฟ 1600 วัตต์ ประหยัดพลังงานแต่มีประสิทธิภาพสูง
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| เทคโนโลยี nanoe ช่วยให้ผมชุ่มชื้นและไม่แห้งเสีย | ราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป |
| น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก | ไม่มีหัวเปลี่ยนสำหรับการจัดแต่งทรงโดยเฉพาะ |
| ลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมเรียบลื่น | กำลังวัตต์ไม่สูงเท่ารุ่นสำหรับมืออาชีพ |
| มีโหมดลมเย็นช่วยล็อกทรงผม | ขนาดเล็กอาจไม่เหมาะสำหรับผมหนาหรือยาวมาก |
เหมาะกับใคร
Panasonic nanoe Hair Dryer รุ่น EH-NA0J เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่มีผมแห้งเสีย ผมทำสี หรือผมแตกปลาย ต้องการลดปัญหาผมชี้ฟู และต้องการไดร์เป่าผมที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในเส้นผม นอกจากนี้ ยังเหมาะกับคนที่เดินทางบ่อย เพราะดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใช้งานง่ายแม้ในพื้นที่จำกัด
3. LESASHA HYPERAIR BLDC JET HAIR DRYER LS1672
[NEW] LESASHA ไดร์เป่าผมไฮเปอร์แอร์ บีแอลดีซี เจ็ท HYPERAIR BLDC JET HAIR DRYER LS1672
ถ้าใครกำลังมองหาไดร์เป่าผมที่แรงและถนอมเส้นผมไปพร้อมกัน LESASHA HYPERAIR BLDC JET รุ่น LS1672 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์สุดๆ ตัวนี้ใช้มอเตอร์ BLDC ที่ให้พลังลมแรงถึง 110,000 รอบต่อนาที เป่าผมแห้งไวขึ้นกว่าปกติถึง 2 เท่า แถมยังมีเทคโนโลยีไอออนิคที่ช่วยลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมเรียบลื่น ไม่ชี้ฟู อีกทั้งยังมีระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนเกินไป ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา พกพาง่าย พร้อมหัวเปลี่ยนถึง 3 แบบ ไม่ว่าจะเป่าผมตรงหรือไดร์ม้วนลอนก็ทำได้สบาย ถือว่าเป็นไดร์เป่าผมที่ครบเครื่องทั้งด้านพลังลมและการดูแลสุขภาพเส้นผม
คุณสมบัติเด่น
- มอเตอร์ BLDC ความเร็วสูง 110,000 รอบต่อนาที เป่าผมแห้งเร็วขึ้น 2 เท่า
- เทคโนโลยีไอออนิค ลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมเรียบลื่น ไม่ชี้ฟู
- ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ ลดความร้อนสะสมที่อาจทำลายเส้นผม
- น้ำหนักเบา จับถนัดมือ พกพาสะดวก
- หัวเปลี่ยน 3 แบบ สำหรับการเป่าผมตรง ม้วนลอน และเพิ่มวอลลุ่ม
- กำลังไฟ 1600 วัตต์ ให้ลมแรงและสม่ำเสมอ
- โหมดลมเย็นช่วยล็อคทรงผมให้อยู่ทรงนานขึ้น
- ลดเสียงรบกวนขณะใช้งาน
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| เป่าผมแห้งไว ลดเวลาในการจัดแต่งทรงผม | ราคาค่อนข้างสูงกว่ารุ่นทั่วไป |
| เทคโนโลยีไอออนิคช่วยลดผมชี้ฟู | ไม่มีสีให้เลือกมากนัก |
| น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก | ต้องใช้หัวเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสไตล์ผม |
| ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ ปกป้องเส้นผม | อาจไม่เหมาะกับคนที่ต้องการไดร์กำลังวัตต์สูงกว่า 2000W |
เหมาะกับใคร
LESASHA HYPERAIR BLDC JET LS1672 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมที่แห้งเร็ว แต่ยังช่วยถนอมเส้นผมให้สุขภาพดี ไม่แห้งเสีย เหมาะกับคนที่มีผมชี้ฟู ผมหยักศก หรือใครที่ต้องการเซ็ตผมให้ดูมีวอลลุ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยเพราะน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก ใครที่มองหาไดร์เป่าผมพรีเมียม ใช้งานคุ้มค่า นี่คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์
4. BHD720/10 Philips Hair Dryer 7000 Series เครื่องเป่าผม
BHD720/10 Philips Hair Dryer 7000 Series เครื่องเป่าผม ฟิลิปส์ ซีรีส์ 7000
หากกำลังมองหาไดร์เป่าผมที่ช่วยให้ผมแห้งเร็วแต่ไม่ทำลายเส้นผม BHD720/10 Philips Hair Dryer 7000 Series เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยเทคโนโลยี ThermoShield ที่ควบคุมอุณหภูมิให้สม่ำเสมอ ลดการทำร้ายเส้นผมจากความร้อนสูง พร้อมระบบไอออนิกคู่ที่ช่วยลดไฟฟ้าสถิต ให้ผมเรียบลื่นและเงางาม ตัวเครื่องออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาแต่ทรงพลังด้วยมอเตอร์ DC กำลังไฟ 2100 วัตต์ มีโหมดปรับแรงลมและอุณหภูมิได้ 6 ระดับ รวมถึงฟังก์ชันลมเย็นสำหรับล็อกทรงผม เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในชีวิตประจำวันและมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมาพร้อมหัวเป่า 2 แบบ ช่วยให้สามารถจัดแต่งทรงผมได้หลากหลายมากขึ้น
คุณสมบัติเด่น
- เทคโนโลยี ThermoShield ปกป้องเส้นผมจากความร้อนสูง
- ระบบ ไอออนิกคู่ ลดไฟฟ้าสถิต ให้ผมเรียบลื่น
- มอเตอร์ DC กำลังไฟ 2100 วัตต์ ให้ลมแรง แห้งไว
- ปรับระดับแรงลมและความร้อนได้ 6 ระดับ
- โหมด ลมเย็น (Cool Shot) ล็อกทรงผมให้อยู่ทรง
- น้ำหนักเบา จับถนัดมือ ลดความเมื่อยล้าขณะใช้งาน
- หัวเป่า 2 แบบ สำหรับเป่าผมตรงและกระจายลม
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| ให้ลมแรง แห้งไว ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย | อาจมีเสียงดังกว่าไดร์ทั่วไป |
| เทคโนโลยี ThermoShield ป้องกันความร้อนสูง | ไม่มีระบบเป่าลมอัตโนมัติ |
| ระบบไอออนิกช่วยให้ผมเงางาม ลดไฟฟ้าสถิต | ราคาสูงกว่าไดร์เป่าผมทั่วไป |
| น้ำหนักเบา ใช้งานสะดวก | ต้องเสียบปลั๊กขณะใช้งาน ไม่มีแบตเตอรี่ |
| มีหัวเป่าให้เลือกใช้งานหลากหลาย | อาจไม่เหมาะกับการพกพาเพราะขนาดค่อนข้างใหญ่ |
เหมาะกับใคร
BHD720/10 Philips Hair Dryer 7000 Series เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมที่ช่วยถนอมเส้นผม ไม่ทำให้แห้งเสียจากความร้อนสูง เหมาะสำหรับคนที่มี ผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู ผมหยักศก หรือผมทำสี ที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงผู้ที่ต้องการไดร์เป่าผมที่มี ฟังก์ชันปรับระดับลม ปรับอุณหภูมิ และมีเทคโนโลยีช่วยลดไฟฟ้าสถิต สำหรับใช้จัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับมืออาชีพที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่องานซาลอน
5. Gaabor ไดร์เป่าผม ความเร็วสูง 130,000 รอบต่อนาที เป่าแห้งเร็ว
Gaabor ไดร์เป่าผม ความเร็วสูง 130,000 รอบต่อนาที เป่าแห้งเร็ว ควบคุมอุณหภูมิคงที่ อ่อนโยนต่อเส้นผม - HD-M01
ไดร์เป่าผม Gaabor HD-M01 เป็นไดร์ความเร็วสูงที่ให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม มาพร้อมมอเตอร์ดิจิตอลที่หมุนได้ถึง 130,000 รอบต่อนาที ทำให้เป่าผมแห้งเร็วขึ้นกว่ารุ่นทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดเวลาในการจัดแต่งทรงผม โดยไม่ทำให้เส้นผมแห้งเสีย เทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม ลดความเสี่ยงจากความร้อนสูงเกินไป ลมเป่าที่มีแรงดันสูงทำให้ผมแห้งเร็วแต่ยังคงความเงางาม มีหัวเป่าแม่เหล็กที่ช่วยให้การจัดแต่งทรงผมง่ายขึ้น ตัวเครื่องดีไซน์เรียบหรู น้ำหนักเบา จับถนัดมือ และยังมีระบบลดเสียงรบกวน ช่วยให้ใช้งานได้เงียบขึ้น
คุณสมบัติเด่น
- มอเตอร์ความเร็วสูง 130,000 รอบต่อนาที เป่าแห้งเร็ว
- เทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิ ป้องกันความร้อนสูงเกินไป
- ลมแรง แรงดันสูง ช่วยให้ผมแห้งไวและไม่ชี้ฟู
- หัวเป่าแม่เหล็ก หมุนปรับทิศทางได้ 360 องศา
- ระบบลดเสียงรบกวน ทำงานเงียบ
- น้ำหนักเบา จับถนัดมือ ไม่เมื่อยขณะใช้งาน
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| เป่าผมแห้งเร็ว ลดเวลาในการจัดแต่งทรงผม | ราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไป |
| ป้องกันความร้อนสะสม ลดการทำร้ายเส้นผม | ไม่มีฟังก์ชันไอออนิกสำหรับลดไฟฟ้าสถิต |
| ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก | ไม่มีที่แขวนหรือตัวเกี่ยวสายไฟ |
| ใช้งานเงียบ ไม่รบกวน | มีตัวเลือกสีจำกัด |
เหมาะกับใคร
Gaabor HD-M01 เหมาะกับผู้ที่ต้องการไดร์เป่าผมที่มีประสิทธิภาพสูงและช่วยลดเวลาในการจัดแต่งทรงผม ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องการดูแลเส้นผมให้สุขภาพดีโดยไม่ถูกความร้อนทำร้าย หรือผู้ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบและต้องการไดร์ที่แห้งไว นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับช่างทำผมหรือคนที่ต้องใช้งานไดร์เป่าผมเป็นประจำ เนื่องจากตัวเครื่องน้ำหนักเบาและทำงานเงียบ
6. Philips ไดร์เป่าผม ซีรีย์ 3000 รุ่น BHD321/00 1600w 30 ล้านไอออน
Philips ไดร์เป่าผม ซีรีย์ 3000 รุ่น BHD321/00 , 1600w 30 ล้านไอออน
หากกำลังมองหาไดร์เป่าผมที่ช่วยให้ผมแห้งเร็วและไม่ทำลายเส้นผม Philips BHD321/00 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ รุ่นนี้มาพร้อมกำลังไฟ 1600 วัตต์ และเทคโนโลยี ThermoProtect ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิ ลดความร้อนที่อาจทำให้ผมแห้งเสีย จุดเด่นคือการปล่อยไอออนลบมากถึง 30 ล้าน ทำให้เส้นผมนุ่มลื่น เงางาม และลดการชี้ฟู มีระดับความแรงและความร้อนให้เลือกถึง 3 ระดับ พร้อมหัวเป่าลมแบบแคบเพื่อการจัดทรงที่แม่นยำ การออกแบบมีน้ำหนักเบา จับถนัดมือ เสียงไม่ดังจนเกินไป และยังเหมาะสำหรับการใช้งานในทุกวัน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเส้นผมอย่างอ่อนโยน
คุณสมบัติเด่น
- กำลังไฟ 1600 วัตต์ ให้ลมแรงแห้งไว
- เทคโนโลยี ThermoProtect ป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อน
- ปล่อยประจุไอออนลบ 30 ล้าน ลดการชี้ฟู เพิ่มความเงางาม
- ปรับระดับความร้อนและความแรงลมได้ 3 ระดับ
- หัวเป่าลมขนาด 12 มม. ช่วยจัดทรงอย่างมีประสิทธิภาพ
- ดีไซน์เบาและจับถนัดมือ ลดเสียงรบกวนขณะใช้งาน
- สายไฟยาว 1.8 เมตร ใช้งานสะดวก
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| มีเทคโนโลยี ThermoProtect ช่วยป้องกันผมเสียจากความร้อน | ไม่มีโหมดลมเย็นแบบแยกเฉพาะ |
| ปล่อยไอออนลบ ลดการชี้ฟู ทำให้ผมเงางามขึ้น | กำลังวัตต์ไม่สูงเท่ารุ่นสำหรับมืออาชีพ |
| น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย จับถนัดมือ | หัวเป่าลมไม่มีแบบกระจายลม (Diffuser) |
| ปรับความร้อนและแรงลมได้ 3 ระดับ | ไม่พับเก็บได้ ทำให้พกพาลำบาก |
| เหมาะกับการใช้งานทุกวัน ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย | – |
เหมาะกับใคร
Philips BHD321/00 เหมาะกับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมที่ช่วยลดผมแห้งเสียและลดการชี้ฟู โดยเฉพาะผู้ที่มีผมแห้ง ผมเสียจากความร้อน หรือผมชี้ฟูง่าย รุ่นนี้ช่วยให้ผมเรียบลื่นและเงางามขึ้น เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน หรือสำหรับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมที่ดูแลเส้นผมได้อย่างอ่อนโยน ไม่รุนแรงเกินไป แต่ยังให้ประสิทธิภาพดี
7. LESASHA ไดร์เป่าผมกำลังแรง ESSENTIAL HAIR DRYER 1600W
[NEW] LESASHA ไดร์เป่าผมกำลังแรง ESSENTIAL HAIR DRYER 1600W (DUAL VOLTAGE) 10LS00384
ถ้าคุณกำลังมองหาไดร์เป่าผมที่มีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย และพกพาสะดวก LESASHA ESSENTIAL HAIR DRYER 1600W ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยกำลังไฟ 1600 วัตต์ ช่วยให้ผมแห้งเร็ว ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย มาพร้อมระบบลมร้อนและลมเย็น ปรับระดับได้ตามต้องการ อีกทั้งยังรองรับการใช้งานแบบ Dual Voltage ทำให้เหมาะกับการเดินทางไปต่างประเทศ ดีไซน์จับถนัดมือ น้ำหนักเบา ใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อยมือ วัสดุแข็งแรงทนทาน ถือว่าเป็นไดร์ที่เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม ช่วยให้จัดทรงง่ายขึ้น ลดการชี้ฟู ใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทางต่างประเทศ
คุณสมบัติเด่น
- กำลังไฟ 1600 วัตต์ เป่าผมแห้งเร็ว
- ระบบปรับลมร้อนและลมเย็น ช่วยถนอมเส้นผม
- รองรับไฟฟ้า Dual Voltage ใช้งานได้ทั่วโลก
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่าย
- ดีไซน์จับถนัดมือ ลดความเมื่อยล้าระหว่างใช้งาน
- ช่วยลดผมชี้ฟูและจัดทรงง่ายขึ้น
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| กำลังไฟแรง เป่าผมแห้งไว | ไม่มีระบบไอออนิกช่วยถนอมเส้นผม |
| ปรับลมร้อนและลมเย็นได้ | ไม่มีหัวเปลี่ยนหรือกระจายลมให้เลือก |
| รองรับไฟฟ้า 2 ระบบ ใช้งานได้ทั่วโลก | อาจไม่เหมาะกับการใช้งานระดับมืออาชีพ |
| ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เหมาะกับการพกพา | ระดับเสียงขณะใช้งานค่อนข้างดัง |
| วัสดุแข็งแรง ทนความร้อนดี | ไม่มีฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเติม |
เหมาะกับใคร
LESASHA ESSENTIAL HAIR DRYER 1600W เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย พกพาสะดวก โดยเฉพาะคนที่เดินทางบ่อยและต้องการไดร์ที่รองรับไฟฟ้าหลายประเทศ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมที่ช่วยให้ผมแห้งเร็วแต่ไม่ทำให้ผมเสียหรือชี้ฟูเกินไป เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงคนที่ต้องการไดร์คุณภาพดีในราคาประหยัด
8. Panasonic Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1,800 วัตต์ Cool-Shot เปลี่ยนระหว่างลมร้อน-เย็น
Panasonic Hair Dryer ไดร์เป่าผม (1800 วัตต์) รุ่น EH-ND37-KL กำลังไฟ 1,800 วัตต์ Cool-Shot เปลี่ยนระหว่างลมร้อน-เย็น
ถ้าคุณกำลังมองหาไดร์เป่าผมที่ให้ลมแรง แห้งไว และถนอมเส้นผม รุ่น EH-ND37-KL จาก Panasonic เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ด้วยกำลังไฟ 1,800 วัตต์ สามารถเลือกปรับระดับความร้อนได้ถึง 3 ระดับ และมีฟังก์ชัน Cool-Shot ที่ช่วยล็อกทรงผมให้อยู่ทรงนานขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหัวเป่ากระจายลมที่ช่วยให้ลมไหลเวียนได้ดี ลดความเสียหายของเส้นผม ตัวเครื่องน้ำหนักเบา จับถนัดมือ ใช้งานง่าย แม้ว่าจะไม่มีเทคโนโลยีไอออนลบเหมือนรุ่นสูงๆ แต่เรื่องคุณภาพและความทนทานถือว่าไม่แพ้กัน เหมาะสำหรับทั้งใช้ในชีวิตประจำวันและพกพาไปท่องเที่ยว
คุณสมบัติเด่น
- กำลังไฟ 1,800 วัตต์ เป่าผมแห้งเร็ว
- ปรับระดับลมร้อน-เย็นได้ 3 ระดับ
- ฟังก์ชัน Cool-Shot ช่วยล็อกทรงผม
- หัวเป่าลมแบบพิเศษ ลดการพันกันของเส้นผม
- น้ำหนักเบา จับถนัดมือ
- ดีไซน์กะทัดรัด พับเก็บสะดวก
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| ลมแรง เป่าผมแห้งเร็ว | ไม่มีเทคโนโลยีไอออนลบ |
| ปรับความร้อนได้ 3 ระดับ | สายไฟไม่สามารถหมุนได้ 360 องศา |
| ฟังก์ชันลมเย็นช่วยรักษาทรงผม | เสียงดังเล็กน้อยเมื่อใช้ลมแรง |
| ดีไซน์พับเก็บง่าย พกพาสะดวก | ไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเครื่องร้อนเกินไป |
เหมาะกับใคร
ไดร์เป่าผมรุ่นนี้เหมาะกับ คนที่ต้องการไดร์ที่มีลมแรง แห้งไว และใช้งานง่าย โดยเฉพาะคนที่ต้องการ เป่าผมให้แห้งเร็วในเวลาเร่งด่วน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมสั้น-ผมยาวปานกลาง และไม่ต้องการฟังก์ชันไอออนลบหรือเทคโนโลยีชั้นสูง เหมาะกับ นักเดินทาง หรือคนที่ต้องการ ไดร์เป่าผมขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ใช้งานในบ้าน หรือหอพักก็ได้ดี
9. Philips Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1200W – BHC010/10
Philips Hair Dryer ไดร์เป่าผม 1200W - BHC010/10
Philips Hair Dryer รุ่น BHC010/10 เป็นไดร์เป่าผมขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่สะดวกและพกพาง่าย มาพร้อมกำลังไฟ 1200 วัตต์ ให้ลมเป่าที่เหมาะสมสำหรับการจัดแต่งทรงผมในชีวิตประจำวัน มีโหมดลมเย็น (Cool Air) ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม ป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อน มีระบบ ThermoProtect ป้องกันความร้อนสูงเกินไป ลดโอกาสเกิดความเสียหายต่อเส้นผม น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เหมาะกับการพกพาไปเที่ยวหรือใช้เป็นไดร์สำรอง นอกจากนี้ยังมีหัวเป่าลมที่ช่วยกระจายลมอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเป่าผมแห้งเร็วขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และราคาไม่แพง
คุณสมบัติเด่น
- กำลังไฟ 1200 วัตต์ ให้ลมเป่าที่พอเหมาะ
- เทคโนโลยี ThermoProtect ลดความร้อนสูงเกินไป
- มีโหมดลมเย็น (Cool Air) ช่วยถนอมเส้นผม
- ปรับระดับแรงลมได้ 3 ระดับ
- น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
- หัวเป่าลมออกแบบพิเศษช่วยกระจายลมให้มีประสิทธิภาพ
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย | กำลังลมไม่แรงมาก ไม่เหมาะกับการเป่าให้แห้งเร็ว |
| มีระบบ ThermoProtect ช่วยถนอมเส้นผม | ไม่มีไอออนิก ลดไฟฟ้าสถิต |
| มีโหมดลมเย็น เหมาะกับการเซ็ตทรงผม | เหมาะกับผมสั้นถึงผมปานกลาง ไม่เหมาะกับผมหนามาก |
| ราคาประหยัด คุ้มค่ากับคุณสมบัติ | ไม่มีฟังก์ชันเป่าลมร้อนแรงสูง |
เหมาะกับใคร
ไดร์เป่าผม Philips BHC010/10 เหมาะกับคนที่ต้องการไดร์ขนาดเล็กสำหรับพกพาไปใช้ระหว่างเดินทาง หรือใช้เป็นไดร์สำรองสำหรับวันเร่งรีบ เหมาะกับผู้ที่มีผมบาง ผมสั้น หรือผมปานกลางที่ไม่ต้องการกำลังลมแรงเกินไป คนที่มองหาไดร์เป่าผมที่ช่วยลดความร้อนทำร้ายเส้นผมและมีฟังก์ชันที่ใช้งานง่ายก็จะถูกใจรุ่นนี้ นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องการไดร์เป่าผมราคาไม่แพงแต่คุณภาพดี
10. Simplus Hair Dryer ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว 1000W
Simplus Hair Dryer ไดร์เป่าผมแห้งเร็ว 1000W ดูแลเส้นผมได้ง่ายๆ CFJH004
สำหรับใครที่กำลังมองหาไดร์เป่าผมขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพ Simplus Hair Dryer รุ่น CFJH004 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยกำลังไฟ 1000W ทำให้ผมแห้งไวโดยไม่ทำลายเส้นผม น้ำหนักเบา จับถนัดมือ เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ จุดเด่นของรุ่นนี้คือเทคโนโลยีไอออนลบช่วยลดไฟฟ้าสถิตและป้องกันผมชี้ฟู มีโหมดปรับความร้อน 2 ระดับและโหมดลมเย็นเพื่อปิดเกล็ดผมให้ดูเงางาม การออกแบบหัวเป่ามีความแม่นยำ ทำให้สามารถจัดแต่งทรงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันความร้อนสูงเกินไป ช่วยให้ใช้งานได้ปลอดภัยขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุณหภูมิที่อาจทำร้ายเส้นผม
คุณสมบัติเด่น
- กำลังไฟ 1000W เป่าผมแห้งเร็ว
- เทคโนโลยีไอออนลบ ลดไฟฟ้าสถิตและผมชี้ฟู
- ปรับระดับแรงลมและความร้อนได้ 2 ระดับ
- มีโหมดลมเย็นเพื่อช่วยล็อกทรงผม
- น้ำหนักเบา จับถนัดมือ พกพาสะดวก
- ระบบป้องกันความร้อนสูงเกินไปเพื่อความปลอดภัย
- หัวเป่าออกแบบให้กระจายลมได้ดี จัดทรงง่าย
| ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|
| ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา | ไม่เหมาะกับการใช้งานในร้านเสริมสวย |
| เทคโนโลยีไอออนลบ ช่วยลดผมชี้ฟู | กำลังไฟ 1000W อาจไม่แรงพอสำหรับผมหนา |
| ปรับความร้อนได้หลายระดับ | ไม่มีหัวเป่าแบบกระจายลมสำหรับผมหยิก |
| มีโหมดลมเย็น ช่วยล็อกทรงผม | สายไฟไม่ยาวมาก อาจต้องใช้ปลั๊กพ่วง |
| ราคาประหยัด คุ้มค่ากับคุณภาพ | ไม่มีฟังก์ชันเป่าลมร้อนแบบเทอร์โบ |
เหมาะกับใคร
Simplus Hair Dryer รุ่น CFJH004 เหมาะกับคนที่ต้องการไดร์เป่าผมขนาดเล็ก ใช้งานง่าย ไม่ต้องการฟังก์ชันซับซ้อน เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่เดินทางบ่อย เพราะน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีเส้นผมบาง-ปานกลาง และต้องการไดร์ที่ช่วยถนอมเส้นผม ไม่ทำให้แห้งเสียเร็ว
วิธีเลือกไดร์เป่าผมที่ดี ต่อการนำไปใช้งาน
การเลือก ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี 2025 และเหมาะกับเส้นผมของแต่ละคน มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและถนอมเส้นผมมากที่สุด เรามาดูปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อไดร์เป่าผมกัน
1. กำลังวัตต์ของไดร์เป่าผม
กำลังไฟของ ไดร์เป่าผม เป็นตัวกำหนดความแรงของลมและความเร็วในการทำให้ผมแห้ง ไดร์เป่าผมแรงลมดี มักมีวัตต์สูงประมาณ 1800-2100W ซึ่งเหมาะกับการเป่าผมหนาหรือยาว ในขณะที่ไดร์ที่มีกำลังไฟต่ำกว่า 1600W จะเหมาะกับผมบางหรือใช้พกพา
2. เทคโนโลยีไอออนิค (Ionic Technology)
เทคโนโลยีไอออนิค ช่วยลดไฟฟ้าสถิตและทำให้เส้นผมดูเงางาม ไม่ชี้ฟู โดยการปล่อยประจุลบเพื่อลดความชื้นและทำให้ผมแห้งเร็วขึ้น ไดร์ที่มีเทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับ ไดร์เป่าผมสำหรับผมเสีย หรือผู้ที่มีปัญหาผมชี้ฟูง่าย
3. น้ำหนักและการออกแบบที่จับถนัดมือ
ไดร์เป่าผมที่มีน้ำหนักเบาและออกแบบให้จับถนัดมือจะช่วยให้ใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อยมือ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้ ไดร์เป่าผมสำหรับผมหนา ที่ต้องใช้เวลานานในการเป่าผมให้แห้ง
4. ฟังก์ชันลมเย็น
ฟังก์ชัน ไดร์เป่าผมลมเย็น เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยล็อคทรงผมให้คงรูปหลังจากจัดแต่งทรงเสร็จ อีกทั้งยังช่วยลดความร้อนที่อาจทำลายเส้นผม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง
5. ความเงียบและการลดเสียงรบกวน
บางรุ่นมีการออกแบบให้เสียงเงียบลงเพื่อลดความรบกวนขณะใช้งาน ไดร์เป่าผมที่มีเทคโนโลยีลดเสียงเหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้ไดร์เป่าผมในช่วงเวลาที่ต้องการความเงียบ เช่น ตอนเช้าหรือดึกๆ
เมื่อตัดสินใจเลือกซื้อไดร์เป่าผม ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพเส้นผมและการใช้งานของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและถนอมสุขภาพเส้นผมในระยะยาว 😊
ไดร์เป่าผมแบบไหนดีที่เหมาะกับคุณ?
การเลือก ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี 2025 ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละคนมีลักษณะเส้นผมที่แตกต่างกัน หากเลือกผิด อาจทำให้ผมแห้งเสีย หรือเป่าแห้งได้ไม่ดีพอ เรามาดูว่า ไดร์เป่าผมแบบไหน เหมาะกับประเภทเส้นผมของคุณมากที่สุด
1. ไดร์เป่าผมสำหรับผมบาง
ผมบางควรใช้ไดร์เป่าผมที่มี กำลังไฟไม่สูงเกินไป (ประมาณ 1200-1600W) และมี เทคโนโลยีไอออนิค เพื่อลดไฟฟ้าสถิตและช่วยให้ผมดูหนาขึ้น
แนะนำรุ่น:
✅ Philips Hair Dryer 1200W – BHC010/10 → กำลังไฟต่ำ ถนอมเส้นผม เหมาะสำหรับผมบาง
✅ LESASHA ESSENTIAL HAIR DRYER 1600W → ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย แรงลมไม่รุนแรงเกินไป
2. ไดร์เป่าผมสำหรับผมหนา
ผมหนาต้องการ ไดร์เป่าผมแรงลมดี กำลังไฟสูง (1800-2100W) เพื่อให้แห้งเร็วขึ้นและจัดทรงได้ง่าย
แนะนำรุ่น:
✅ Dyson Airwrap i.d. ™ multi-styler and dryer → เป่าผมแห้งเร็ว มีระบบควบคุมอุณหภูมิ ลดความเสียหายของเส้นผม
✅ LESASHA HYPERAIR BLDC JET HAIR DRYER LS1672 → แรงลมแรง เป่าผมแห้งเร็ว เหมาะสำหรับผมหนา
3. ไดร์เป่าผมสำหรับผมเสียจากการทำสี
หากคุณมีผมที่เสียจากการทำสี ควรเลือกไดร์ที่มี เทคโนโลยีไอออนิค ช่วยลดความร้อนทำลายเส้นผมและป้องกันผมชี้ฟู
แนะนำรุ่น:
✅ Panasonic nanoe Hair Dryer รุ่น EH-NA0J → Nanoe เทคโนโลยีให้ความชุ่มชื้น ลดความแห้งเสียของเส้นผม
✅ Philips Hair Dryer 7000 Series BHD720/10 → มี ThermoShield ป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อน
4. ไดร์เป่าผมสำหรับผมหยิก/ลอน
ผมหยิกหรือลอนควรใช้ ไดร์เป่าผมสำหรับผมหยิก ที่มี หัวกระจายลม (Diffuser) และสามารถปรับอุณหภูมิได้ เพื่อคงความลอนธรรมชาติ
แนะนำรุ่น:
✅ Gaabor Hair Dryer HD-M01 → เป่าผมด้วยอุณหภูมิที่สมดุล ไม่ทำให้ลอนเสียรูป
✅ Panasonic Hair Dryer EH-ND37-KL (1800W) → มี Cool-Shot ล็อคลอนผมให้ดูเป็นธรรมชาติ
การเลือก ไดร์เป่าผม ที่เหมาะกับเส้นผมของคุณ จะช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้น จัดทรงง่าย และลดความเสียหายของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 😊
คำถามที่พบบ่อย(FAQ)
ไดร์เป่าผมกี่วัตต์ดี?
การเลือกกำลังวัตต์ของ ไดร์เป่าผมวัตต์สูง หรือวัตต์ต่ำขึ้นอยู่กับประเภทเส้นผมของคุณ:
1200-1600W → เหมาะสำหรับผมบางหรือใช้พกพา
1800-2100W → เหมาะสำหรับผมหนา แรงลมดี เป่าผมแห้งเร็ว
2000W ขึ้นไป → ไดร์เป่าผมระดับมืออาชีพ ใช้เป่าผมแห้งเร็วในเวลาอันสั้น
ไดร์เป่าผมเสียงเบามีไหม?
มีไดร์เป่าผมหลายรุ่นที่ออกแบบให้เป็น ไดร์เป่าผมเสียงเงียบ โดยใช้เทคโนโลยีลดเสียงรบกวน เช่น มอเตอร์ BLDC หรือระบบควบคุมลม
ไดร์เป่าผม BLDC Motor เงียบกว่าไดร์ทั่วไป
ไดร์ที่มี เทคโนโลยีลดเสียงรบกวน เช่น Dyson หรือ LESASHA
ไดร์เป่าผมแบบพับได้ใช้ดีไหม?
ไดร์เป่าผมพับได้ เหมาะสำหรับการพกพา ใช้งานสะดวก น้ำหนักเบา แต่ส่วนใหญ่กำลังไฟจะไม่สูงมาก ทำให้เป่าผมช้ากว่าไดร์ขนาดปกติ
เหมาะสำหรับ ใช้งานทั่วไป หรือพกไปท่องเที่ยว
ไม่เหมาะสำหรับ ผมหนามาก เพราะแรงลมอาจไม่เพียงพอ
สรุปสุดท้าย
การเลือก ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี 2025 ให้เหมาะสมกับเส้นผมและความต้องการของคุณช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้น ถนอมเส้นผม และจัดทรงได้ง่ายขึ้น โดยในบทความนี้เราได้คัดเลือก 10 ไดร์เป่าผมแนะนำ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- Dyson Airwrap i.d. → เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ไดร์เป่าผมระดับพรีเมียม ที่มีฟังก์ชันครบถ้วน
- LESASHA HYPERAIR BLDC JET → ไดร์กำลังแรง เป่าผมแห้งเร็ว เหมาะสำหรับ ผมหนา
- Panasonic nanoe EH-NA0J → ใช้ เทคโนโลยีไอออนิค ถนอมเส้นผม เหมาะสำหรับ ผมเสียจากการทำสี
- Gaabor Hair Dryer HD-M01 → ควบคุมอุณหภูมิได้ดี เหมาะสำหรับ ผมหยิก/ลอน
- Philips Hair Dryer 1200W – BHC010/10 → ไดร์เป่าผมราคาถูก พกพาง่าย เหมาะสำหรับ ผมบาง
ไดร์เป่าผมที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละประเภทของผู้ใช้
✅ ไดร์เป่าผมสำหรับผมบาง: Philips Hair Dryer 1200W – BHC010/10
✅ ไดร์เป่าผมสำหรับผมหนา: LESASHA HYPERAIR BLDC JET
✅ ไดร์เป่าผมสำหรับผมเสียจากการทำสี: Panasonic nanoe EH-NA0J
✅ ไดร์เป่าผมสำหรับผมหยิก/ลอน: Gaabor Hair Dryer HD-M01
✅ ไดร์เป่าผมที่ดีที่สุดโดยรวม: Dyson Airwrap i.d.™
แชร์บทความนี้!
หากบทความนี้ช่วยให้คุณเลือก ซื้อ ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี 2025 ได้ง่ายขึ้น อย่าลืมแชร์ให้เพื่อน ๆ ของคุณ เพื่อช่วยให้พวกเขาเลือกไดร์เป่าผมที่เหมาะสมเช่นกัน 😊
📌 บทความที่เกี่ยวข้อง:
🔗 10 พัดลมพกพา ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ลมแรง ใช้งานง่าย พกพาสะดวก
🔗 ข้อมูลไดร์เป่าผมทั้งหมดจาก Shopee.co.th
